ปลูกไผ่ลืมแล้ง กินได้ตลอดปี
ตอนไปงานเกษตรที่ปราจีนบุรี พี่ที่ทำงานของแฟนก็ฝากซื้อไผ่
แต่เค้าไม่แน่ใจว่าเป็นไผ่อะไร ตอนแรกผมก็เข้าใจว่าน่าจะเป็นไผ่จำพวกประดับ
สวยงาม เลยจะหาไผ่หวานให้
เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าเนื้อที่บ้านพี่คนนี้เค้ามีไม่มาก ไม่น่าจะปลูกต้นไผ่กอใหญ่ๆ ได้ และผมเองก็อยากจะติดไม้ติดมือมาบ้าง เป็นไผ่หวานปลูกกินหน่อกอสวยๆ คนขายบอกได้หน่อกินตลอดปีเป็น ไผ่ลืมแล้ง พอได้ข้อมูลก็เดินหาไผ่ลืมแล้งหลายๆ ร้าน สะดุดตาที่ร้านหนึ่ง เป็นไผ่ตงลืมแล้ง พี่เค้าก็บอกว่า น้ำท่วมก็ไม่ตาย แล้งนักก็ไม่ตาย ปลูกง่าย มีหน่อตลอดปี
เค้ารับประกัน เพราะเค้าปลูกอยู่หลายไร่ นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เอามาขาย
แถมเคยได้รางวัลการประกวดด้วย และบอกด้วยว่าหากค้นหาใน internet
เกี่ยวกับไผ่ลืมแล้ง และข้อมูลที่เห็นนั่น
คือไผ่ชนิดที่ผมกำลังถามอยู่นี่เอง
ส่วนรางวัลนั้นผมก็ไม่ได้ถามรายละเอียดว่าได้รางวัลประเภทไหน
แต่ผมสนใจมากทีเดียว
จากการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลมาเล็กๆ น้อยๆ จึงรวมมาเขียนลงไว้ในนี้ซะเลย เกี่ยวกับ การปลูกไผ่ลืมแล้ง ว่ามันจะทนทานสภาพอากาศได้ดีแค่ไหน ออกหน่อให้ตัดกินได้ตลอดปีจริงหรือไม่ มาดูกัน
ไผ่ตงลืมแล้ง
เป็นไผ่สายพันธุ์ที่มาจากประเทศอินโดนีเซีย
และเป็นไผ่เศรษฐกิจที่กำลังมาแรง ซึ่งมีจุดเด่นคือ ทนแล้ง ทนน้ำท่วม
เป็นไผ่ที่ไม่มีหนาม
หรือแค่เพียงนำกิ่งไผ่ตงลืมแล้งนี้ไปแช่น้ำในอ่างน้ำธรรมดาๆ
ไม่นานรากก็งอกออกมา แสดงให้เห็นว่า อัตราการงอกสูงมาก และการรอดตายก็สูง
น้ำท่วมก็ไม่ตาย น้ำน้อยจนขนาดขาดแคลนน้ำ ก็สามารถหาน้ำเองได้
ไม่ตายเช่นกัน
ไผ่ ลืมแล้งนี้ จะมีลักษณะพิเศษคือ เปลือกหุ้มหน่ออ่อนจะเกลี้ยงไม่มีขนปกคลุมเลย เวลาแกะเอาเนื้อในจึงสะดวกสบายมากและเป็นไผ่ตงที่มีหน่อตลอดปี น้ำท่วมต้นก็ไม่ตายแถมทนแล้งได้ดีอีกต่างหาก จะแล้งขนาดไหนยังแทงหน่ออ่อนให้เก็บรับประทานหรือเก็บขายได้ตลอดทั้งปี จึงถูกตั้งชื่อว่า ไผ่ลืมแล้ง ซึ่งโดยปกติแล้ว ไผ่ตงนั้นหากอยู่ในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูหนาวจะไม่มีหน่อให้เก็บเลย แต่ผิดกับไผ่ชนิดนี้ ที่มีหน่อออกตลอดปี นอก จากนั้นแล้วยังเป็นหน่อไม้ที่มีกรดยูริกที่เป็นสาเหตุของโรคเกาต์ จึงสามารถรับประทานได้อย่างเต็มที่และที่สำคัญเนื้อไม้หรือลำไผ่ของไผ่ตง ชนิดนี้ ยังเป็นไผ่ที่มอดไม่กินอีกด้วย เวลานำไปสร้างบ้านไม้ไผ่หรือทำเฟอร์นิเจอร์จึงมีความทนทานได้นานกว่าไม้ไผ่ ชนิดใดๆ ไผ่ลืมแล้ง เป็นพันธุ์นำเข้าจากประเทศอินโดนีเซียนานกว่า 5 ปีแล้ว อยู่ในวงศ์ GRAMINEAE เป็นไม้ยืนต้นตระกูลหญ้า ต้นสูงได้กว่า 20 เมตร ลำต้นตรง เป็นข้อหรือปล้อง ขนาดของลำต้นใหญ่ เนื้อไม้หนา ยอดอ่อน หรือ หน่ออ่อนมีเปลือกหุ้มสีเขียว ไม่มีขนตามที่กล่าวข้างต้น โผล่เหนือดินเรียกว่า หน่อไม้ไผ่ตง เนื้อในรสชาติหวานกรอบอร่อยมาก ขนาดของหน่อโตเต็มที่มีน้ำหนักเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 5-7 กิโลกรัมต่อหัว มีหน่อตลอดปี ขยายพันธุ์ด้วยหน่อ มีต้นหรือหน่อขาย ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ แผง คุณก็อต-คุณหลง ตรงกันข้ามกับโครงการ 15 ราคาสอบถามกันเอง จังหวัดปราจีนบุรี มีสวนไผ่มากมาย จำหน่ายราคาประมาณ 60-80 บาท จังหวัดพัทลุง มีจำหน่าย แบ่งปันกิ่งตอน กิ่งชำ ในราคามิตรภาพ (อ้างอิงจาก http://www.bansuanporpeang.com/node/77) การปลูกไผ่ตงลืมแล้ง มีลักษณะทนต่อทุกสภาพอากาศ ทนแล้งได้ดี น้ำท่วมไม่ตาย ปลูกได้ในดินทั่วไป และมีหน่อให้เก็บรับประทาน หรือเก็บขายตลอดปี จึงเหมาะที่จะปลูกเป็นพืชครัวและพืชเศรษฐกิจเป็นอย่างยิ่ง
การปลูกไผ่ลืมแล้ง สูตรลุงทวี มะโนทวัน
เกษตรกรที่ปลูกพืชผลทางด้านการเกษตรไว้หลายชนิดในพืชที่ 12
ไร่ นายทวี มะโนทวัน หรือที่คนในพื้นที่เรียกว่าลุงวี
ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ บ้านแม่กรณ์ หมู่ 1 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
ได้กล่าวกับทีมงานว่าตนทำการเกษตรมาตั้งแต่ยังเล็ก นับเป็นเวลาก็หลายปี
แต่ทำเป็นจริงจังก็ประมาณ 10 ปีมาแล้ว
ซึ่งได้ใช้พื้นที่ที่มีอยู่จำกัดปลูกพืชผลทางด้านการเกษตรหลากหลายชนิดจน
กลายเป็นเกษตรผสมผสานไร่นาสวนผสม ทั้งปลูกข้าว ผลไม้และเลี้ยงสัตว์
ลุงวียังคงรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินในพื้นที่ไว้และใช้ให้เกิดประโยชน์สูง
สุด โดยได้แบ่งพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วนดังนี้คือ ที่นา 5 ไร่ บ่อปลา 3 ไร่
พืชสวน/ที่อยู่อาศัย 4 ไร่
ลุงวีปลูกไผ่ลืมแล้งมาได้ประมาณ 2 ปีในเนื้อที่ประมาณ 1
งานตามขอบบ่อเลี้ยงปลา ซึ่งลุงวีได้ซื้อกล้าพันธุ์มาจากจังหวัดแพร่
โดยที่ซื้อมาเป็นกอใหญ่แล้วนำมาแยกปลูกได้ประมาณ 60 ต้น
ใช้ต้นทุนในการซื้อกล้าพันธุ์ประมาณ 3,600 บาท
ลุงวีเลือกปลูกไผ่ลมแล้งเพราะไผ่ชนิดนี้ให้ผลผลิตดีตลอดทั้งปี
สามารถให้ผลผลิตได้ตั้งแต่เริ่มปลูกได้แค่ 6 เดือน
จึงสร้างรายได้ให้กับลุงวีได้เป็นอย่างดี
การปลูกไผ่ลืมแล้ง ของลุงวี มีวิธีการดังนี้
ไผ่ลืมแล้งจะมีช่วงพักตัวประมาณปลายเดือนกันยายาถึงตุลาคมของทุกปีจะไม่ค่อย
มีหน่อ ถึงมีก็จะไม่สมบูรณ์หน่อมีขนาดเล็ก
ช่วงนี้จึงควรมีการตัดแต่งกิ่งให้มีแสงแดดรำไร
และเลือกตัดต้นไม่สมบูรณ์ทิ้งไป
ประมาณปลายเดือนธันวาคมไผ่ก็จะเริ่มให้ผลผลิตอีกครั้งหนึ่ง
ลุงวีจะมีเทคนิคในการตัดหน่อไผ่ขายก็คือจะคอยบำรุงรักษาต้นไผ่เป็นอย่างดีใน ช่างฤดูฝน และจะไม่มีการตัดหน่อขายในช่วงนี้ เพราะในช่วงนี้จะมีหน่อออกมาจำหน่ายในท้องตลาดเยอะมาก ลุงวีจะรอจนกว่าจะถึงช่วงเดือนมกราคม ซึ่งหน่อไม้ในช่วงนี้จะมีราคาสูงประมาณกิโลกรัมละ 80 บาท เพราะช่วงนี้จะมีหน่อไม้น้อยจะเป็นหน่อนอกฤดู ลุงวีจะตัดหน่อขายได้จนกระทั่งเดือนพฤษภาคม แต่ละเดือนก็จะมีราคาแตกต่างกันออกไป ช่วงเดือนมีนาคมราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาท เดือนเมษายนกิโลกรัมละ 40 บาทและพฤษภาคมกิโลกรัมละ 20-30 บาท
อ้างอิงข้อมูล rakbankerd dot com / bansuanporpeang dot com
ภาพประกอบที่ bansuanporpeang dot com / rakbankerd dot com |
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น