การเลี้ยงหอยขม
พอพูดถึงเรื่องหอยขม ตามธรรมชาติที่กำลังหายากเต็มที จะหาลูกโต ๆ ก็มีน้อย จะพบเจอแต่ตัวเล็ก เนื้อน้อย กินไม่อร่อย ไม่สะใจ จะกินแกงหอยทั้งที ต้องหาซื้อหอย ก็ใช่ว่าจะมีขายทั่วไปซะเมื่อไหร่ล่ะ บางวันก็มี บางวันก็หาไม่ได้เลย
จึงไปหาวิธีการเลี้ยงหอย มาประดับความรู้ไว้บ้างดีกว่า เผื่อได้เป็นไอเดีย
ทำฟาร์หอยขม ทราบข่าวมาว่าต้นทุนการเลี้ยงหอย ต่ำมาก ๆ ที่สำคัญคือ บ่อ
หรือสถานที่เลี้ยงนั่นล่ะ อาจจะขุดบ่อดิน หรือเลี้ยงในกระชัง
ลอยไว้ตามลำคลอง หรือหนองบึงก็แล้วแต่สะดวก ถ้าเลี้ยงในกระชัง
ก็เป็นตาข่ายไนล่อนตาถี่ ๆ (สีฟ้า ๆ ) ทำเป็นรูปกระชังสีเหลี่ยม ขนาด 3 คูณ
6 เมตร กำลังดี ความลึกก็ประมาณ 120 เซนติเมตร ถ้าเป็นบ่อดิน
ขนาดอย่างว่าก็น่าจะเหมาะสมแล้วเช่นกัน ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป
ทำกระชังน่าจะทำได้ไม่ยาก ทำอย่างไรให้มันลอยน้ำ
และไม่รั่วให้หอยเพ่นพ่านไปตามน้ำซะ
หรืออย่าให้สัตว์อื่นเข้าไปกินหอยในกระชังได้ก็เพียงพอ
ถ้าเลี้ยงในกระชัง ควรให้ขอบบนของกระชังอยู่ห่างจากผิวน้ำ ประมาณ 20 - 30
เซ็นติเมตร ดังนั้นก็จะมีพื้นที่ด้านล่างให้หอยอยู่อาศัยได้ลึกพอสมควร
ส่วนในบ่อดิน หรือร่องสวน ก็ให้มีน้ำขังไม่น้อยกว่า 30 เซ็นติเมตร
ก็โอเคแล้ว เพราะธรรมชาติของหอย จะอาศัยในน้ำตื้นได้ขอให้น้ำลึกอย่างน้อย
10 เซ็นติเมตรก็อยู่ได้แล้ว สังเกตดูในนาข้าว น้ำไม่ได้ลึกมาก
แต่หอยอยู่ได้ โตดีพอสมควร
อัตราการปล่อยหอยในกระชัง หรือในบ่อดิน ให้นำหอยขนาดโตที่เราเก็บรับประทาน
(โตเต็มที่) ประมาณ 2 กิโลกรัม ปล่อยลงไปใน 1 บ่อ หรือต่อ 1 กระชัง
อาจจะใช้อัตราส่วนนี้
นำไปคำนวณการปล่อยหอยลงไปเลี้ยงในร่องสวนที่มีรูปร่างไม่แน่นอน
หรือมีพื้นที่ไม่ชัดเจนก็ได้ ไม่ว่ากัน มากน้อยเพียงใดปรับแก้กันได้
แต่ถ้าเยอะเกิน จะทำให้การเจริญเติบโตของหอยลดลง ขนาดที่ได้จะไม่ใหญ่มากนัก
น้ำหนักน้อย เพราะมีการแย่งอาหารกัน
สิงสำคัญอีกอย่างที่ขาดไม่ได้ที่ต้องนำไปใส่ในบ่อ หรือในกระชัง คือ
ทางมะพร้าว ยาวประมาณ 1 เมตร ใส่ลงไปในบ่อ 2 - 3 ทางต่อบ่อ
เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย เป็นที่เกาะ และเป็นที่กินอาหารของหอย
เพราะหอยขมนิสัยเป็นนักเกาะตัวยง
ชอบเกาะตามสิ่งที่ลอยในน้ำ หรือจมอยู่ในน้ำ
เพราะทางมะพร้าวที่ใส่ไปสักระยะหนึ่งจะมีพวกตะไคร่น้ำ หรือตะกอน
หรือคราบตะกอนในน้ำ ซึ่งเป็นอินทรีย์สารมาเกาะมากมาย
นั่นล่ะครับคืออาหารจานโปรดของหอยขมเลย..บางครั้งแทบไม่ต้องให้อาหารสำเร็จ
รูปเลี้ยงหอยก็ได้ ถ้ามีพวกนี้เพียงพอเหมือนในแหล่งน้ำธรรมชาติ
อย่าลือนะครับ ทางมะพร้าวที่เราใส่ลงไป ประมาณ 2
เดือนผ่านไปอาจจะเริ่มผุพัง เน่าเปื่อยทำให้น้ำเสียได้
จึงควรเปลี่ยนอันใหม่ลงไปแทน จะให้ผลดีกว่า
อาหารสำหรับหอยขม ก็เป็นอาหารปลาสูตรสำหรับปลากินพืชทั่วไป นำไปใช้ได้เลย
ให้ตามอัตราที่ 2 % ต่อน้ำหนักตัวของหอย
ก็ลองเอาหอยแต่ละช่วงอายุที่เราเลี้ยง สุ่มเอามาชั่งน้ำหนักดู เช่น
ชั่งได้ 1,000 กรัม (หรือ
1กิโลกรัม) จากนั้นก็เอาจำนวนตัวหอยที่ชั่งเมื่อกี้ มาหารน้ำหนัก
ก็จะเป็นน้ำหนักเฉลี่ย หรือน้ำหนักหอย 1 ตัว
แล้วค่อยคำนวณหาจำนวนหอยโดยประมาณของหอยทั้งหมดในบ่อ แล้วคูณ ด้วย 2%
ก็จะได้น้ำหนักอาหารที่ควรจะให้กับหอย แต่ที่แน่ ๆ เราไม่รู้หรอกว่า
ในบ่อนั้นมีหอยเกิดใหม่ หรืออาศัยอยู่หลังจากเราปล่อยลงไปตอนแรกสักกี่ตัว
อันนี้ไม่ต้องห่วงเลย ใช้วิธีกะประมาณเอาครับง่ายที่สุด
เพราะนี่เป็นการให้อาหาร ไม่ใช่ให้ยาสัตว์ป่วยครับ อย่าให้น้อยแล้วกัน
เดี๋ยวหอยจะไม่อวบ ไม่สมบูรณ์ แต่ถ้าให้เยอะเกิน ระวังน้ำจะเสีย แค่นั้นเอง
หรือบางคนอาจจะให้อาหารน้อยหน่อยถ้าเลี้ยงตามร่องสวน
เพราะหอยจะกินพวกตะไคร่น้ำ หรือสารอินทรีย์ที่ล่องลอยอยู่ในน้ำได้อยู่แล้ว
ขอให้น้ำสะอาดเป็นอันใช้ได้
ระยะเวลาการเลี้ยงไม่นานเกินรอครับ ประมาณ 2 เดือน ได้เริ่มจับขายแน่นอน
แต่ต้องทยอยจับนะครับ เพราะหอยพวกนี้โตไม่เท่ากัน
และมีหลายขนาด พวกมันขยายพันธุ์ได้ดีมาก เพราะในตัวเดียวกันมีสองเพศ
พูดง่าย ๆ มันไม่ต้องจับคู่ผัวเมียผสมพันธุ์เหมือนสัตว์อื่นๆ ผสมในตัวเอง
แล้วออกลูกเป็นตัวได้เลย หอย 1 ตัวออกลูกประมาณ 40 - 50 ตัว
หอยขม (Pond snail, Marsh snail, River snail) ชื่อวิทยาศาสตร์ Filopaludina
อยู่ในไฟลัม Mollusca กลุ่มหอยฝาเดียว วงศ์ Viviparidae เป็นหอยฝาเดียว
มีขนาดเล็ก เปลือกเป็นเกลียวกลมยอดแหลม เปลือกหนาและแข็ง
ผิวชั้นนอกเป็นสีเขียวแก่ ฝาปิดเปลือกเป็นแผ่นกลม ตีนใหญ่ จะงอยปากสั้นทู่
ตามีสีดำอยู่ตรงกลางระหว่างโคนหนวด ตัวผู้มีหนวดเส้นข้างขวาพองโต
กว่าเส้นข้างซ้าย
ลักษณะพิเศษของหอยชนิดนี้คือมีอวัยวะเพศทั้งเพศผู้และเพศเมียอยู่ในตัวเดียว
กัน และผสมพันธุ์ได้ด้วยตัวของมันเองเมื่ออายุได้ 60 วัน
หอยขมออกลูกเป็นตัวครั้งละ 40-50 ตัว ลูกหอยขมที่ออกมาใหม่ๆ มีวุ้นหุ้มอยู่
แม่หอยขมจะใช้หนวดแทงวุ้นจนแตก เพื่อให้ลูกหอยหลุดออกจากวุ้น
ลูกหอยขมเคลื่อนไหวได้ทันทีเมื่อออกจากตัวแม่
จะพบเห็นชุกชุมอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม-พฤษภาคม
เนื้อหอยขมนิยมนำมาทำอาหารประเภทแกง
หรือที่มีขนาดเล็กมากก็ใช้เป็นอาหารเป็ดและสัตว์อื่นๆ
หอยขมอาศัย ในแหล่งน้ำจืด เช่น คู คลอง หนอง บึง ที่น้ำไม่ไหลแรงและเป็นน้ำนิ่ง มีระดับความลึกตั้งแต่ 10 เซนติเมตร ถึง 2 เมตร มักเกาะอยู่กับพันธุ์ไม้น้ำ เสาหลัก ตอไม้ หรือตามพื้นในที่ร่ม กินอาหารพวกสาหร่ายและอินทรีย์สาร ใบไม้ใบหญ้าผุๆ ในน้ำ รวมทั้งซากอินทรีย์ที่เน่าเปื่อยและผงตะกอนที่จมอยู่ตามผิวดิน
จะ เลี้ยงหอยขมก็เลี้ยงได้หลายแบบเพราะมันเลี้ยงง่าย โตเร็วและแพร่พันธุ์ได้เอง ที่นิยมคือเลี้ยงในกระชัง นิยมใช้กระชังไนลอนชนิดตาถี่ ทำเป็นรูปกระชังขนาด 3x6 เมตร สูง 120 เซนติเมตร นำกระชังไปผูกในแหล่งน้ำด้วยการให้มุมล่างและมุมบนของกระชังทั้งสี่ด้านยึด ติดกับเสา 4 ต้น หรือเพิ่มตรงกลางตามความยาวของกระชังอีกด้านละต้นรวมเป็น 6 ต้น ขอบบนของกระชังอยู่เหนือระดับน้ำ 20-30 เซนติเมตร อย่าให้ก้นกระชังติดพื้นดิน เพราะจะทำให้ก้นกระชังจมโคลน เมื่อผูกกระชังเรียบร้อยแล้วใส่ทางมะพร้าวสดขนาดยาว 1 เมตร ลงไป 2-3 ทาง พยายามอย่าให้ทางมะพร้าวทับกัน และควรผูกไว้เพื่อไม่ให้ทางมะพร้าวทับก้นกระชังอาจฉีกขาดได้
ใส่หอย ขมขนาดใหญ่ หรือขนาดโตที่ใช้รับประทานโดยทั่วไป ลงไป 2 กิโลกรัมต่อกระชัง โดยคัดเลือกหอยขมที่ยังสด สังเกตได้โดยนำหอยขมไปแช่น้ำทิ้งไว้ ถ้าหอยขมคว่ำตัวติดกับภาชนะแสดงว่ายังมีชีวิตอยู่ หลังจากใส่หอยขมแล้ว วันที่สองยกทางมะพร้าวขึ้นดูจะพบหอยขมเล็กๆ เกาะอยู่ตามทางมะพร้าว ทางมะพร้าวที่แช่น้ำนานๆ จะเน่าเปื่อยผุพัง จึงควรเปลี่ยนใหม่เดือนละ 2 ครั้ง หอยขมที่เลี้ยงในกระชังจะเกาะกินตะไคร่น้ำและซากเน่าเปื่อยอยู่ตามทาง มะพร้าว ตลอดจนบริเวณด้านข้างและก้นกระชัง โดยไม่ต้องให้อาหารเสริมแต่อย่างใด หลังจาก 2 เดือนจึงทยอยคัดเลือกเก็บตัวใหญ่ขึ้นมารับประทานหรือจำหน่ายเพื่อไม่ให้หอย ขมอยู่กันหนาแน่นเกินไป จะทำให้หอยขมเจริญเติบโตช้า
ยังมีการเลี้ยง หอยขมในร่องสวน เริ่มจากปล่อยพันธุ์หอยขมขนาดประมาณ 60 ตัว ต่อกิโลกรัม จำนวน 2 กิโลกรัม โดยตัดทางมะพร้าวปักลงไปเป็นจุดๆ ให้ทั่วร่องสวน เมื่อทางมะพร้าวเน่าเปื่อยหรือมีตะไคร่จับ หอยจะเข้ามาเกาะและกินตะไคร่น้ำเป็นอาหาร โดยไม่จำเป็นต้องให้อาหารใดๆ ใช้ระยะเวลาเพียง 6 เดือน จากจำนวนที่ปล่อย 2 กิโลกรัม จะได้ผลผลิตหอยรวมประมาณ 100 กิโลกรัม หรือเลี้ยงหอยขมในบ่อดินรวมกับปลาอย่างปลานิล หรือตะเพียนขาว โดยนำหอยขมตัวเต็มวัยใส่ลงในบ่อดิน ทำหลักไม้ไผ่ปักเป็นจุดๆ หรือใช้ทางมะพร้าวใส่ลงไปให้หอยขมเกาะ ให้อาหารปลาตามปกติ เศษอาหารและมูลของปลาก็จะเป็นอาหารหอยขมต่อไป หลังจากนั้นทุกๆ 15 วันเริ่มเก็บหอยตัวใหญ่ออกมา
การเก็บเกี่ยวผลผลิตหอยขมทำได้ง่ายมาก โดยยกทางมะพร้าวขึ้นมา หรือยกขอบกระชังขึ้นมาก็จะพบหอยขมเกาะอยู่ตามทางมะพร้าวหรือบริเวณด้าน ข้างกระชัง ส่วนที่เลี้ยงในท้องร่อง อาจใช้สวิงตาห่างคราดเก็บเอาก็ได้ หรือนำยางนอกของรถมอเตอร์ไซค์ลงแช่ในบ่อเลี้ยง ซึ่งหอยขมจะจับจนเต็มยางรถ ช่วยให้สะดวกในการเก็บและประหยัดเวลา
ข้อมูลเพิ่มเติม
การเพาะเลี้ยงหอยขม
หอยขมอาศัย ในแหล่งน้ำจืด เช่น คู คลอง หนอง บึง ที่น้ำไม่ไหลแรงและเป็นน้ำนิ่ง มีระดับความลึกตั้งแต่ 10 เซนติเมตร ถึง 2 เมตร มักเกาะอยู่กับพันธุ์ไม้น้ำ เสาหลัก ตอไม้ หรือตามพื้นในที่ร่ม กินอาหารพวกสาหร่ายและอินทรีย์สาร ใบไม้ใบหญ้าผุๆ ในน้ำ รวมทั้งซากอินทรีย์ที่เน่าเปื่อยและผงตะกอนที่จมอยู่ตามผิวดิน
จะ เลี้ยงหอยขมก็เลี้ยงได้หลายแบบเพราะมันเลี้ยงง่าย โตเร็วและแพร่พันธุ์ได้เอง ที่นิยมคือเลี้ยงในกระชัง นิยมใช้กระชังไนลอนชนิดตาถี่ ทำเป็นรูปกระชังขนาด 3x6 เมตร สูง 120 เซนติเมตร นำกระชังไปผูกในแหล่งน้ำด้วยการให้มุมล่างและมุมบนของกระชังทั้งสี่ด้านยึด ติดกับเสา 4 ต้น หรือเพิ่มตรงกลางตามความยาวของกระชังอีกด้านละต้นรวมเป็น 6 ต้น ขอบบนของกระชังอยู่เหนือระดับน้ำ 20-30 เซนติเมตร อย่าให้ก้นกระชังติดพื้นดิน เพราะจะทำให้ก้นกระชังจมโคลน เมื่อผูกกระชังเรียบร้อยแล้วใส่ทางมะพร้าวสดขนาดยาว 1 เมตร ลงไป 2-3 ทาง พยายามอย่าให้ทางมะพร้าวทับกัน และควรผูกไว้เพื่อไม่ให้ทางมะพร้าวทับก้นกระชังอาจฉีกขาดได้
ใส่หอย ขมขนาดใหญ่ หรือขนาดโตที่ใช้รับประทานโดยทั่วไป ลงไป 2 กิโลกรัมต่อกระชัง โดยคัดเลือกหอยขมที่ยังสด สังเกตได้โดยนำหอยขมไปแช่น้ำทิ้งไว้ ถ้าหอยขมคว่ำตัวติดกับภาชนะแสดงว่ายังมีชีวิตอยู่ หลังจากใส่หอยขมแล้ว วันที่สองยกทางมะพร้าวขึ้นดูจะพบหอยขมเล็กๆ เกาะอยู่ตามทางมะพร้าว ทางมะพร้าวที่แช่น้ำนานๆ จะเน่าเปื่อยผุพัง จึงควรเปลี่ยนใหม่เดือนละ 2 ครั้ง หอยขมที่เลี้ยงในกระชังจะเกาะกินตะไคร่น้ำและซากเน่าเปื่อยอยู่ตามทาง มะพร้าว ตลอดจนบริเวณด้านข้างและก้นกระชัง โดยไม่ต้องให้อาหารเสริมแต่อย่างใด หลังจาก 2 เดือนจึงทยอยคัดเลือกเก็บตัวใหญ่ขึ้นมารับประทานหรือจำหน่ายเพื่อไม่ให้หอย ขมอยู่กันหนาแน่นเกินไป จะทำให้หอยขมเจริญเติบโตช้า
ยังมีการเลี้ยง หอยขมในร่องสวน เริ่มจากปล่อยพันธุ์หอยขมขนาดประมาณ 60 ตัว ต่อกิโลกรัม จำนวน 2 กิโลกรัม โดยตัดทางมะพร้าวปักลงไปเป็นจุดๆ ให้ทั่วร่องสวน เมื่อทางมะพร้าวเน่าเปื่อยหรือมีตะไคร่จับ หอยจะเข้ามาเกาะและกินตะไคร่น้ำเป็นอาหาร โดยไม่จำเป็นต้องให้อาหารใดๆ ใช้ระยะเวลาเพียง 6 เดือน จากจำนวนที่ปล่อย 2 กิโลกรัม จะได้ผลผลิตหอยรวมประมาณ 100 กิโลกรัม หรือเลี้ยงหอยขมในบ่อดินรวมกับปลาอย่างปลานิล หรือตะเพียนขาว โดยนำหอยขมตัวเต็มวัยใส่ลงในบ่อดิน ทำหลักไม้ไผ่ปักเป็นจุดๆ หรือใช้ทางมะพร้าวใส่ลงไปให้หอยขมเกาะ ให้อาหารปลาตามปกติ เศษอาหารและมูลของปลาก็จะเป็นอาหารหอยขมต่อไป หลังจากนั้นทุกๆ 15 วันเริ่มเก็บหอยตัวใหญ่ออกมา
การเก็บเกี่ยวผลผลิตหอยขมทำได้ง่ายมาก โดยยกทางมะพร้าวขึ้นมา หรือยกขอบกระชังขึ้นมาก็จะพบหอยขมเกาะอยู่ตามทางมะพร้าวหรือบริเวณด้าน ข้างกระชัง ส่วนที่เลี้ยงในท้องร่อง อาจใช้สวิงตาห่างคราดเก็บเอาก็ได้ หรือนำยางนอกของรถมอเตอร์ไซค์ลงแช่ในบ่อเลี้ยง ซึ่งหอยขมจะจับจนเต็มยางรถ ช่วยให้สะดวกในการเก็บและประหยัดเวลา
2 ความคิดเห็น :
ผมน่าจะไปทดลองเลียงบ้างผมจะซื้อหอยขมจากตลาดแล้วไปทดลองเลียงดู
กำลังจะทดลองเลี้ยงครับ
แสดงความคิดเห็น