มะขามเปรี้ยวยักษ์ โตเร็ว ทนแล้ง ตลาดดี

มะขามเปรี้ยวพันธุ์ฝักใหญ่ เป็นไม้ผลไม้ยืนต้น ที่ให้ผลผลิตในระยะยาว ปลูกและดูแลง่าย หลังจากปลูกไปแล้ว 3 ปีก็จะติดฝักให้ผลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามความสมบูรณ์และอายุของต้น

ลักษณะต้น เป็นทรงพุ่มเตี้ย
ลักษณะฝักโค้งเล็กน้อยเป็นฝักดาบ
น้ำหนักฝัก ฝักดิบ 3-4 ฝักต่อ 1 กก.
ฝักสุก 14-18 ฝักต่อ 1 กก.
น้ำหนักเนื้อมะขาม แกะเปลือกและเมล็ดแล้ว หนัก700-750 กรัมต่อมะขามสุก 1 กก.
ความเปรี้ยว เปรี้ยวกว่ามะขามบ้านธรรมดา 2-3 เท่าโดยประมาณ
ข้อดีของการปลูกมะขามเปรี้ยวยักษ์
•ขึ้นได้ในดินทุกประเภท
•ชอบแดดจัดๆ (ทุ่งโล่งไม่มีต้นไม้ใหญ่)
•พื้นที่ที่ปลูกหน้าแล้งต้องแล้งจริงๆ ต้นที่ปลูกที่มีอายุ3ปีขึ้นไป ถ้าเกิดโดนไฟไหม้ 80-90 เปอร์เซ็นต์ก็ยังมีโอกาสรอด
• ต้นที่ปลูกที่มีอายุ 3ปีขึ้นไป ถ้าโดนน้ำท่วมประมาณ 80 % ของความสูงต้นนาน3เดือน ครึ่งก็ยังรอด
•มะขามพันธุ์นี้แตกกิ่งออกทางด้านข้าง ทำให้ต้นไม่สูงเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ง่าย
•ในใบแก่ของมะขามจะมีสารที่ทำให้แมลงไม่มารบกวน
•ผลผลิตของมะขามเปรี้ยว สามารถเก็บขายได้หลายชนิด หลายช่วงเช่น เก็บยอดอ่อน
•เก็บมะขามฝัก อ่อน เก็บ ฝักดิบทำแช่อิ่มหรือเข้าโรงดอง หรือเก็บเป็นมะขามเปียก เม็ดมะขามก็ยังสามารถขายได้
•เป็นไม้ผลที่ขายแล้วไม่ถึงมือคนกิน ฉะนั้นจะทำให้การล้นของตลาดเกิดขึ้นได้ช้า
•ดีสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาไปคอยดูแล ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะมีคนมาขโมยไปกิน
•ชอบแดดจัดๆ (ทุ่งโล่งไม่มีต้นไม้ใหญ่)
•พื้นที่ที่ปลูกหน้าแล้งต้องแล้งจริงๆ ต้นที่ปลูกที่มีอายุ3ปีขึ้นไป ถ้าเกิดโดนไฟไหม้ 80-90 เปอร์เซ็นต์ก็ยังมีโอกาสรอด
• ต้นที่ปลูกที่มีอายุ 3ปีขึ้นไป ถ้าโดนน้ำท่วมประมาณ 80 % ของความสูงต้นนาน3เดือน ครึ่งก็ยังรอด
•ในใบแก่ของมะขามจะมีสารที่ทำให้แมลงไม่มารบกวน
•ผลผลิตของมะขามเปรี้ยว สามารถเก็บขายได้หลายชนิด หลายช่วงเช่น เก็บยอดอ่อน
•เก็บมะขามฝัก อ่อน เก็บ ฝักดิบทำแช่อิ่มหรือเข้าโรงดอง หรือเก็บเป็นมะขามเปียก เม็ดมะขามก็ยังสามารถขายได้
•เป็นไม้ผลที่ขายแล้วไม่ถึงมือคนกิน ฉะนั้นจะทำให้การล้นของตลาดเกิดขึ้นได้ช้า
•ดีสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาไปคอยดูแล ไม่ต้องคอยกังวลว่าจะมีคนมาขโมยไปกิน
สำหรับเกษตรกรมือใหม่ ใจเย็นๆ อย่าด่วนตัดสินใจ พยายามดูตลาดก่อน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
จากการศึกษาข้อมูลของมะขามเปรี้ยว ดูเหมือนจะไม่มีข้อเสียใดๆ
ไม่ว่าจะทั้งการปลูก การดูแล และด้านการตลาด และด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายๆ
คนให้ความสนใจพืชตัวนี้พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นมะขามเปรี้ยวฝักขนาดใหญ่ 4-5
ฝัก / กก.
เป็นไม้ผลทีขึ้นง่ายไม่ต้องดูแลมากเป็นพืชทนแล้งสามารถเจริญเติบโตได้ดีแม้
ในพื้นที่ที่แห้งแล้ง
และทางด้านการตลาดนั้นก็ดูจะยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่เป็นพืชเศรษฐกิจที่จะ สร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรมีความต้องการเป็น 100 เป็น 1,000 ตันราคามะขามเปรี้ยวแกะเมล็ดแล้วจะมีราคากิโลกรัมละ 20-40 บาทมะขามฝักใหญ่แบบสดจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 10- 20 บาท
มะขามเปรี้ยวเป็นพืชที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง โดยใช้เป็นส่วนประกอบของอาหาร ยา และเครื่องใช้ในครัวเรือน และยังทำเป็นในรูปอุตสาหกรรมได้อีก เช่นโรงงานน้ำพริก เครื่องปรุงน้ำพริกมะขามเปียกสำเร็จรูป สมุนไพรบำรุงผิวพรรณ เครื่องสำอาง ไวน์ แยม ซอสมะขาม ลูกอม เครื่องดื่ม ชามะขาม เยลลี่ ยาระบาย ยาลูกกลอน
และทางด้านการตลาดนั้นก็ดูจะยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่เป็นพืชเศรษฐกิจที่จะ สร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรมีความต้องการเป็น 100 เป็น 1,000 ตันราคามะขามเปรี้ยวแกะเมล็ดแล้วจะมีราคากิโลกรัมละ 20-40 บาทมะขามฝักใหญ่แบบสดจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 10- 20 บาท
มะขามเปรี้ยวเป็นพืชที่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง โดยใช้เป็นส่วนประกอบของอาหาร ยา และเครื่องใช้ในครัวเรือน และยังทำเป็นในรูปอุตสาหกรรมได้อีก เช่นโรงงานน้ำพริก เครื่องปรุงน้ำพริกมะขามเปียกสำเร็จรูป สมุนไพรบำรุงผิวพรรณ เครื่องสำอาง ไวน์ แยม ซอสมะขาม ลูกอม เครื่องดื่ม ชามะขาม เยลลี่ ยาระบาย ยาลูกกลอน
ตัวอย่างการปลูกมะขามไร่ชมจันทร์
จากการศึกษาการตลาดเองหลังปลูกไปแล้ว เช็คราคาขายปลีกอยู่ประมาณ 70-100
สำหรับมะขามเปียก ราคากลางตลาดไทเฉลี่ยที่ 39 บาท มะขามสด กิโลละ 7-8 บาท ทีนี้มาดูผู้รับซื้อดูบ้าง
จากการสอบถามผู้ที่รับซื้อ เค้าบอกว่าไม่อยากรับซื้อมะขามเปรี้ยวฝักยักษ์ไปทำมะขามเปียก เนื่องจากน้ำหนักหายไปเยอะมากๆ หลังจาแกะเปลือกและเมล็ดออกแล้ว หายไปประมาณ 60-70% ราคาที่เค้ารับซื้อกันก็ไม่เกิน 20 บาท หักค่าคนงาน ค่าโน่น ค่านี่ ค่านั่น น่าจะราคาเนตที่ 10 บาท

ถ้าเป็นมะขามสด ต่อต้นอยู่ที่ 500-1,000 กก. คิดที่ 700 กก แล้วกัน น้ำหนักไม่หาย x กิโลละ 7-8 บาท เท่ากับขายได้ต้นละ 4,900 – 5,600 บาท
ทีนี้ขอเสียงผู้ที่ปลูกมะขามเปรี้ยว ตัวจริง เสียงจริง ขายได้แล้วจริงๆ เข้ามา CONFIRM หน่อยค่ะว่าจริง
แท้เป็นอย่างไรกันบ้าง
ทางออกของตลาดมะขามเปรี้ยวยักษ์

1. ตลาดนัด / ตลาดในท้องถิ่น
2. สถานที่ท่องเที่ยว / เทศกาลต่างๆ
3. ร้านอาหารต่างๆ
4. ขายให้พ่อค้าคนกลาง
5. สมาชิกรับไปจำหน่าย
6. สำรวจและประสานงานกับผู้รับซื้อ
7. ดูแลการจำหน่าย ประชาสัมพันธ์ตามโอกาสและสื่อต่างๆ
ต้นทุนในการแปรรูปมะขามเปรี้ยว และการตลาด สำหรับคนที่กำลังจะก้าวเข้าวงการ2. สถานที่ท่องเที่ยว / เทศกาลต่างๆ
3. ร้านอาหารต่างๆ
4. ขายให้พ่อค้าคนกลาง
5. สมาชิกรับไปจำหน่าย
6. สำรวจและประสานงานกับผู้รับซื้อ
7. ดูแลการจำหน่าย ประชาสัมพันธ์ตามโอกาสและสื่อต่างๆ
ปัจจัยที่จำเป็นต้องใช้
1. ค่าตู้อบมะขาม 1 ตู้ เป็นเงิน 30,000 บาท
2. เงินทุนหมุนเวียนซื้อวัตถุดิบ และบรรจุภัณฑ์เป็นเงิน 50,000 บาท สามารถมีผลผลิตจำหน่ายได้แก่
-
มะขามแช่อิ่มเปียก เริ่มผลิตเดือนกันยายน ถึงวันที่ 15 ธันวาคม รวม 15
สัปดาห์ๆละ 300 กก . รวม 15 สัปดาห์ ผลผลิต 4,500 กก . กำไร 30 บาท / กก .
เป็นเงิน 9,000 บาท / กลุ่ม / สัปดาห์ หรือ 300 บาท / คน / สัปดาห์
- มะขามแช่อิ่มแห้ง เริ่มผลิตเดือนกันยายนถึงวันที่ 15 ธันวาคม รวม 15 สัปดาห์ๆละ 300 กก . รวม 15 สัปดาห์ ผลผลิต 4,500 กก . ต้นทุน 45 บาท / กก . กำไร 35 บาท / กก . เป็นเงิน 10,500 บาท / กลุ่ม / สัปดาห์ หรือ 350 บาท / คน / สัปดาห์
- มะขามหยี เริ่มผลิตเดือน
กันยายนถึงวันที่ 15 ธันวาคม รวม 15 สัปดาห์ๆละ 200 กก . รวม 15
สัปดาห์ผลผลิตรวม 3,000 กก . ต้นทุน 50 บาท / กก . กำไร 50 บาท / กก .
เป็นเงิน 10,000 บาท / กลุ่ม / สัปดาห์หรือ 333 บาท / คน / สัปดาห์1. ค่าตู้อบมะขาม 1 ตู้ เป็นเงิน 30,000 บาท
2. เงินทุนหมุนเวียนซื้อวัตถุดิบ และบรรจุภัณฑ์เป็นเงิน 50,000 บาท สามารถมีผลผลิตจำหน่ายได้แก่

- มะขามแช่อิ่มแห้ง เริ่มผลิตเดือนกันยายนถึงวันที่ 15 ธันวาคม รวม 15 สัปดาห์ๆละ 300 กก . รวม 15 สัปดาห์ ผลผลิต 4,500 กก . ต้นทุน 45 บาท / กก . กำไร 35 บาท / กก . เป็นเงิน 10,500 บาท / กลุ่ม / สัปดาห์ หรือ 350 บาท / คน / สัปดาห์

- มะขามแก้ว ผลิต ตลอดทั้งปี ผลิตสัปดาห์ละ 200 กก . 52 สัปดาห์ ผลผลิต 5,200 กก . ต้นทุน 30 บาท / กก . กำไร 40 บาท / กก . เป็นเงิน 8,000 บาท / กลุ่ม / สัปดาห์ หรือ 266 บาท / คน / สัปดาห์
วัสดุอุปกรณ์

2. หม้อต้มน้ำร้อนลวก มะขามใหญ่ 4 ใบ =3,500 บาท
3. ตู้แช่เย็น =14,000 บาท
4. ชุดเตาแก๊ส ขนาด 4 หัว =3,000 บาท
5. ถาด สแตนเลส ขนาด 8 ใบ =3,200 บาท
6. เครื่องซีนพลาสติก =3,500 บาท
ข้อคิดเห็นเจ้าของบล็อก
ที่ดินที่ไม่ได้ทำอะไรปลูกมะขามไว้ดีกว่า
ปลูกตอนต้นฝนรดน้ำครั้งเดียวตอนปลูก หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เทวดาเลี้ยงไป
ปีไหนมีราคาก็ขาย ปีไหนไม่มีราคาก็ปล่อยเป็นร่มเงา หญ้าก็ไม่เกิดใต้ร่ม
ที่สำคัญต้นมะขามมีอายุเป็น 100 ปีค่ะ
แหล่งที่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร และ แหล่งอื่นๆ จากอินเตอร์เน็ต
ขอขอบคุณ : ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
แหล่งที่มา : กรมส่งเสริมการเกษตร และ แหล่งอื่นๆ จากอินเตอร์เน็ต
ขอขอบคุณ : ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
อ้างอิง: ที่นี่
0 ความคิดเห็น :
แสดงความคิดเห็น